“หึ...ฤทธิ์เยอะเหมือนกันนี่
แบบนี้ถึงจะสนุก”
ว่าจบมือใหญ่ข้างที่ถือเนกไทไว้ก็โยนเนกไทลงบนเตียงก่อนจะจับเข้าที่คางของร่างโปร่งแล้วออกแรงบีบจนชลนทีต้องยอมคลายฟันที่กัดอยู่บนแขนออก ดวงตาสีน้ำตาลคลอน้ำขึ้นมาทันทีด้วยความเจ็บจากแรงบีบ
แต่ก็ยังฮึดสู้พยายามดิ้นขืนลำตัวออกจากอ้อมแขนแม้จะแทบไม่เป็นผล สองมือทั้งจิกทั้งข่วนจนเทวารำคาญเลยจับเหวี่ยงลงไปกลางที่นอนอีกครั้งก่อนจะตามไปคร่อมทับ
ชลนทีเสียเปรียบทันทีที่คนตัวใหญ่แทรกตัวลงกลางระหว่างขาทั้งสองข้าง มือที่ยกขึ้นมาหวังจะปล่อยหมัดใส่คนด้านบนถูกมือใหญ่รวบเอาไว้ได้ ก่อนที่อิสระจะหมดลงด้วยเนกไทสีดำเส้นยาวของตนเองที่อีกฝ่ายนำมาใช้มัดข้อมือทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยกันแล้วกดสองแขนขึ้นไว้บนศีรษะ
“อย่าทำผมเลย
ผมไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาจริง ๆ ”
เมื่อรู้แน่แล้วว่าการดิ้นหนีด้วยกำลังที่ด้อยกว่าของตนเองคงจะเอาตัวไม่รอด จึงเปลี่ยนเป็นเอ่ยวาจาร้องขอ แต่ข้างในใจก็หวังว่าหากอีกฝ่ายเผลอพลาดท่าเมื่อไหร่จะจัดการทันที
“อย่างนั้นเหรอ” เทวาถามเหมือนจะเยาะอยู่ข้างใบหู
ก่อนที่ริมฝีปากร้ายกับจมูกคมจะเริ่มฉกชิมผิวเนื้อของลูกหนูในกำมืออย่างใจเย็นผิดกับตอนปราบพยศเมื่อครู่
ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าน้ำเสียงวิงวอนกับแววตาแค้นเคืองนั่นไม่ได้เข้ากันเลยสักนิด
คิดจะใช้ไม้อ่อนเพื่อประวิงเวลาแล้วหาโอกาสเอาคืนสินะ..เด็กน้อย
“จริง ๆ นะ ผมไม่รู้จริง ๆ
ว่ามันคือห้องพัก.....ของ....คุณ...” ปลายเสียงของชลนทีเริ่มขาดหายเมื่อรู้สึกได้ถึงปลายลิ้นอุ่นชื้นที่แตะอยู่แถวลำคอ ยิ่งลมหายใจอุ่น ๆ เป่ารดลงมาความกล้าที่มีก่อนหน้านี้ก็ยิ่งลดถอยลง ชลนทีหดคอหนี
แต่อีกฝ่ายก็ยังฝังจมูกและริมฝีปากลงมาได้อยู่ดี
“ไม่รู้แต่ก็ยังจะเข้ามา ? เหมือนกับตอนที่สะกดรอยตามฉันที่ผับนั่นน่ะเหรอ” เทวาละริมฝีปากออกจากผิวเนื้อเนียนมาจ้องมองเด็กหัดโกหกตรงหน้า
“คุณรู้.......อื้อ....”
ยังไม่ทันจะจับต้นชนปลายได้ถูกริมฝีปากได้รูปก็ถูกครอบครองด้วยริมฝีปากของคนด้านบนจนต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงคอไป ชลนทีเบิกตากว้างด้วยความตกใจพยายามจะหันหนีแต่กลับถูกมือใหญ่จับคางฝืนบังคับไว้ เทวาก้มลงประกบริมฝีปากลงไปใหม่อีกครั้ง ดูดดึงริมฝีปากของคนด้านล่างเล่นจนพอใจปลายลิ้นร้ายจึงเริ่มจะเข้าแทรกซอน
แต่ติดที่ว่าหนูตัวน้อยที่คิดว่าสิ้นฤทธิ์ไปแล้วกลับแผลงฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง
“ซี๊ด...”
เทวาถอนริมฝีปากออกมาทันทีที่ความเจ็บแปลบแล่นพ่านจากปลายลิ้นสู่โคนด้วยฤทธิ์ของฟันคมจากคนด้านล่าง ดวงตาคมมองอีกคนอย่างคาดโทษ มือใหญ่กดบีบปลายคางจนดวงตาสีน้ำตาลคลอน้ำอีกครั้งด้วยความเจ็บ ไม่นานก็ปล่อยออกก่อนจะยกยิ้มร้าย
ชลนทีหอบหายใจทันทีที่ริมฝีปากเป็นอิสระ แต่ไม่นานก็ต้องขบกัดฟันคมกับปากที่เริ่มแดงของตนเอง
เมื่อกายสูงของคนด้านบนบดเบียดลงมาจนสรีระบางส่วนด้านล่างสัมผัสกัน เทวากดเบียดความเป็นชายเข้ากับคนด้านล่างอย่างอ้อยอิ่งแต่จงใจลงน้ำหนักให้สิ่งนั้นทั้งของเขากับของร่างโปร่งเสียดสีกันภายใต้เนื้อผ้าที่ไม่ได้หนามากนัก
“ไม่..อย่าทำ..” ชลนทีร้องขอออกมาพร้อมกับส่ายศีรษะ
แววตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองผ่านม่านน้ำตาหวังให้อีกคนเปลี่ยนใจ
“สิ้นฤทธิ์แล้วหรือไง” เทวาถามพร้อมกับรอยยิ้มน้อย ๆ อย่างถูกใจที่สามารถทำให้แววตาดื้อรั้นของคนด้านล่างเปลี่ยนไปได้
ยังไม่ทันที่ชลนทีจะได้ตอบอะไรริมฝีปากหยักก็กดทาบลงมาบนปากเขาอีกครั้ง
แรงบีบที่ปลายคางทำให้คนด้านล่างต้องจำยอมให้อีกฝ่ายประกบจูบลงมาตามใจ เทวาดูดดึงริมฝีปากของคนด้านล่างเล่นจนเกิดเสียงดังน่าอาย ในขณะที่สะโพกสอบเริ่มขยับเคลื่อนไหวให้ร่างกายเสียดสีกันอีกครั้ง
สุดท้ายคนที่ชั่วโมงบินน้อยกว่าหรือแทบจะไม่มีเลยจึงยอมเผยอปากออกเปิดรับปลายลิ้นอุ่นเข้าไปด้านใน
ปลายลิ้นร้ายแทรกซอนเข้ากวาดต้อนและดูดดึงเล่นกับปลายลิ้นของคนถูกรุกรานอย่างชอบใจ
ภายนอกว่าหวานแล้วภายในกลับหวานล้ำยิ่งกว่า
ยิ่งได้สัมผัสกวาดชิมก็เหมือนจะยิ่งต้องการมากขึ้นอีกเท่านั้น จากต้องการป้อนจูบเพื่อสั่งสอนจึงกลายเป็นเริ่มทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อย
ๆ ตามอารมณ์ปรารถนา
“...อึก...อื้อ...”
เนิ่นนานจนร่างโปร่งที่ขาดอากาศหายใจเริ่มประท้วง ชลนทีเริ่มดิ้นอีกครั้งเท่าที่ร่างกายจะสามารถขยับได้
แต่ก็คล้ายว่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งเป็นการเบียดตนเองเข้ากับคนด้านบน
“ทำแบบนี้จะยั่วฉันหรือไง”
เทวาเอ่ยเยาะออกมาให้อีกคนหัวเสียเล่น ไม่รู้ทำไมเขาถึงนึกสนุกเมื่อได้เห็นแววตาพยศของลูกหนูตรงหน้า
หลังจากยอมใจดีปล่อยให้คนข้างล่างได้หอบหายใจอยู่พักหนึ่งริมฝีปากหยักก็ทาบทับลงไปใหม่อีกครั้ง คราวนี้ชลนทีไม่ได้ดิ้นรนสู้ปลายลิ้นเขาเหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว
แม้จะไม่ได้ตอบสนองอย่างออกรสแต่อาการโอนอ่อนผ่อนตามนั้นก็ทำให้เทวายอมที่จะใจดีไม่ตักตวงเหมือนจะสูบวิญญาณดั่งครั้งก่อน
กริ๊ก
!!
เสียงหัวเข็มขัดที่ถูกคลายออกทำให้คนด้านล่างได้สติ แต่เพียงไม่นานความรู้สึกใหม่ก็เข้าแทนที่ชลนทีเบิกตากว้างอีกครั้งด้วยความตกใจเมื่อได้รับสัมผัสอุ่นจากมือใหญ่ที่ล่วงล้ำเข้าไปแตะต้องสิ่งต้องห้ามภายในโดยไร้เนื้อผ้ากีดขวาง
“อ๊ะ...มะ..ไม่..”
น้ำเสียงสั่นร้องท้วงออกมาขาด
ๆ หาย ๆ ใบหน้าขาวส่ายสะบัดหนีจูบที่อีกคนกำลังป้อนให้จนเส้นผมสีน้ำตาลระไปกับเตียงนอน พอเห็นอย่างนั้นคนด้านบนเลยได้ใจ เทวาไล้ปลายนิ้วเข้าแตะหยอกล้อกับส่วนปลายก่อนจะกดย้ำลงไปให้เจ้าตัวสะท้านเล่น ชลนทีเริ่มหอบแต่ก็ยังพยายามขยับสะโพกหนีโดยไม่รู้ตัวเลยว่าการขยับร่อนสะโพกแบบนั้นไม่ได้ต่างจากการยั่วยวนตรงไหนเลย
“นายกำลังทำให้ฉันอยากจะฝังตัวลงไปซะตอนนี้เลย รู้ตัวมั้ย”
น้ำเสียงพร่ากระซิบชิดริมฝีปาก ก่อนจะถอนใบหน้าออกมากวาดมองดวงหน้าขาวอย่างคนภาคเหนือที่ตอนนี้เริ่มแดงซ่านจากแรงอารมณ์ด้วยน้ำมือตนเอง
ติดจะขัดใจกับเสื้อกั๊กและเสื้อเชิ้ตที่ขวางหูขวางตาแต่ว่าตอนนี้เทวาคงต้องทำให้ลูกหนูเชื่องเสียก่อนถึงจะจัดการกับเสื้อผ้าพวกนี้ได้
คนตัวสูงไล่จูบไปตามใบหน้าและลำคอ
ในขณะที่มือใหญ่ไล้ไปตามความยาวของสิ่งในมือก่อนจะเริ่มขยับเคลื่อนไหวจากบางเบาเนิบช้าเป็นเร็วขึ้นเรื่อย
ๆ
“อ๊ะ...อื้อ...”
ไม่นานร่างกายที่เคยต่อต้านกันอยู่ก่อนหน้านี้ก็สิ้นฤทธิ์ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามการชักนำ เสียงครางหวานหูที่เจ้าตัวพยายามกลั้นไว้แต่ก็ยังเล็ดรอดออกมาให้คนรังแกกันได้ฟัง ปลายขาสองข้างยกขึ้นทำมุมกับที่นอนอย่างที่เจ้าของเองแทบไม่รู้ตัว
ส่งผลให้คนได้เปรียบมีเวลาละออกมาจัดการกับเสื้อผ้าที่ขวางตาออก
โดยให้ส่วนแข็งขืนที่เริ่มแปรสภาพของตนเองทำหน้าที่เสียดสีกับแท่งเนื้ออ่อนนุ่มนั้นแทน
“ไม่..ปล่อยผมไป..เถอะนะ..ผมขอร้อง”
ชลนทีร้องขออีกครั้งเมื่อเสื้อกั๊กสีดำโดนกระชากออกจากตัวด้วยมือคนใจร้อนที่ยอมเสียเวลาปลดกระดุมอยู่เพียงแค่เม็ดแรกเท่านั้นก็ดึงตัวเสื้อออกทันที
“เลิกร้องขอได้แล้ว...เด็กดี”
ไม่ว่าเปล่ามือใหญ่ยังสอดเข้าใต้เสื้อเชิ้ตลูบไล้ไปตามผิวขาวให้เจ้าของกายสะท้าน ก่อนจะไปหยุดที่เนินเนื้อเม็ดเล็ก ๆ
ปลายนิ้วปัดผ่านแผ่วเบาพอให้เจ้าของแผ่นอกหวามไหว ก่อนจะหลบไปหยอกล้อกับอีกฝั่งแล้วปล่อยให้ริมฝีปากร้ายได้ฉกชิมผ่านเนื้อผ้า ชลนทีผวาแอ่นอกเข้าหาริมฝีปากหยักทันทีที่ปลายลิ้นตวัดผ่านหยอกเย้าก่อนจะถูกดูดดึงอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกเหมือนว่าอีกคนคงจะอยากกลืนกินมันเข้าไปถ้าทำได้
เทวาละใบหน้าออกมาดูผลงานด้วยความพึงพอใจ ดวงตาคมยิ้มเยาะใส่ใบหน้าของคนข้างใต้ที่มองมาอย่างเอาเรื่อง
หากแต่ร่างกายกลับบิดสะท้านปนหอบหายใจจากสัมผัสของตนเอง ใบหน้าคมก้มลงกดจูบหนัก ๆ บนริมฝีปากที่เริ่มเจ่อบวมอีกครั้งก่อนจะจับร่างโปร่งพลิกคว่ำ ดึงรั้งช่วงสะโพกให้ยกขึ้นเพื่อจะทำในสิ่งที่อดใจรอมาเนิ่นนาน
“ขอโทษครับ”
“มีอะไร !!!!”